บทความส่วนใหญ่ เป็นนิยาย เรื่องสั้น เรื่องเล่า มีทั้งอ้างอิงจากเค้าโครงเรื่องจริง และเรื่องแต่งขึ้นเอง

Tadeestory/ล็อคเกอร์มือสอง ตอน 4

 

          “ติ๊ด ๆๆๆๆ” “เฮือก”เฮ้อฉันแค่ฝันไปเหรอเนี่ย เสียงนาฬิกาปลุก ปลุกฉันจากฝันร้าย ฉันเอื้อมมือไปหยิบมือถือขึ้นมา แล้วปิดเสียงมันซะ ค่อยยังชั่ววันนี้ไม่สาย ฉันลุกขึ้นเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวกะจะเดินลงไปอาบน้ำข้างล่าง แต่เอ๊ะคงไม่ดีมั้งถ้าเกิดเจอเหมือนในความฝันล่ะ ฉันว่าฉันอาบน้ำที่ห้องแม่เหมือนเมื่อวานน่าจะปลอดภัยกว่า การอาบน้ำก็ผ่านไปได้ด้วยดีไม่มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น ฉันกลับเข้าห้องแต่งตัวเตรียมไปทำงาน
          “อ้าววันนี้ไม่ต้องใส่ชุดนักศึกษาเหรอลูก”แม่ถามด้วยความประหลาดใจที่เห็นฉันลงมาทานข้าวในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์
“ไม่ใส่แล้วค่ะ เมื่อวานใส่ไปโดนแซวใหญ่เลย”
"อ้าวแค่ใส่ชุดนักศึกษาก็โดนล้อเหรอ”
“ใช่ค่ะแม่เพราะทั้งโรงงานมีหนูใส่อยู่คนเดียว”
“555 งั้นก็สมควรแล้วล่ะเนอะ”
 “กินข้าวเลยมั้ยล่ะ แม่เตรียมให้แล้วอยู่ที่โต๊ะนะ”แม่พูดต่อ
“วันนี้มีอะไรบ้างน้า” ฉันถามพร้อมเดินลงไปนั่งที่โต๊ะ แล้วกเ็ปิดฝาชีที่แม่ครอบไว้
“ว้าย” ฉันอุทานด้วยความตกใจ โยนฝาชีทิ้ง.พร้อมผงะออกจากเก้าอี้ เพราะภาพที่เห็นในจานคือชิ้นเนื้อสดๆ ส่งกลิ่นเหม็นคาวคละคลุ้ง แถมยังมีหนอนไต่ยั้วเยี้ย ทำให้คนที่เกลียดหนอนที่สุดอย่างฉันสติแตก
 “เป็นอะไรฝน ร้องทำไม”แม่ถาม ฉันจึงพยายามตั้งสติแล้วรีบวิ่งไปกอดแม่
 “แม่ฝนกลัวอ่ะ”ฉันพูดทั้งน้ำตา ฉันเริ่มมั่นใจว่าความฝันเมื่อคืนไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มีใครบางคนพยายามทำให้ฉันต้องการทำให้ฉันกลัว ตั้งแต่เกิดฉันไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย มันเป็นเพราะอะไรกัน “ฝนตั้งสติก่อนลูก กลัวอะไรไหนเล่าให้แม่ฟัง”
“แม่ไปดูในจานสิ”ฉันตอบแม่พร้อมชี้ไปที่โต๊ะอาหาร แม่ค่อยๆแกะมือฉันออก แล้วเดินไปที่โต๊ะอาหาร
“ไม่เห็นมีอะไรเลยนิฝน ก็แค่ข้าวผัดกับหมูทอด มา มาดูจะได้ไม่กลัว”แม่พูดพร้อมยื่นมือมาให้ฉันจับ ฉันขว้ามือแม่ไว้แล้วค่อยๆเดินไปที่โต๊ะ จริงด้วยแค่หมูทอดกับข้าวผัดอย่างที่แม่บอก
 “แม่ ฝนไม่ได้โกหกนะ เมื่อกี้ฝนเห็นหมูทอดเป็นเนื้อสดๆ แถมยังมีหนอนเต็มไปหมดเลยอ่ะ” ฉันอธิบายให้แม่ฟัง
 “เมื่อคืนนอนดึกพักผ่อนไม่เพียงพอรึเปล่า อาจจะตาฝาดก็ได้” แม่พยายามบ่ายเบี่ยงประเด็น
“ไม่ใช่แน่ๆแม่ ถึงจะตาลายจมูกก็ไม่น่าจะเพี้ยน เมื่อกี้ตอนเปิดฝาชีกลิ่นเหม็นเน่าแรงมากๆเลย ฝนขอกินแต่ข้าวผัดแล้วกัน”ฉันเอื้อมมือไปหยิบจานข้าวผัด มือนึงยังเกาะหลังแม่เอาไว้ พอได้จานข้าวผัดแล้ว ฉันเดินไปกอนตรงซิงค์ที่แม่กำลังล้างจานอยู่ โดยแม่ก็เดินตามกลับมาแบบติดๆ
“เมื่อคืนฝนฝันแปลกๆด้วยค่ะแม่”
“นี่กินข้าวให้เรียบร้อยก่อนค่อยเล่า เล่าความฝันตอนกินข้าวโบราณเค้าถือ”
“จริงเหรอคะ ฝนไม่เห็นรู้เลย”
“จริงสิ แม่ก็บอกอยู่นี่ไง” ฉันพยักหน้าหงึกๆ แล้วกินข้าวในจานต่อให้หมดไวๆจะได้เล่าความฝันให้แม่ฟัง “หมดยัง” แม่ถามหลังจากเหลือบตามามองแล้วไม่เห็นข้าวในจาน ฉันพยักหน้าหงึกๆเป็นการตอบรับพร้อมกับวางจานลงที่ซิงค์ แล้วเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นดื่ม
“เมื่อตอนเกือบๆเช้า ฝนฝันว่าเห็นผีในห้องน้ำสภาพเค้าน่ากลัวมาก เหมือนคนโดนฆ่าหั่นศพอ่ะแม่ ในฝันมันเหมือนจริงมากๆเลยนะ ฝนพยายามถามเค้าแล้วว่าอยากให้ช่วยอะไรมั้ย แต่ดันตื่นซะก่อน”
“ผีเหรอ ผู้หญิงหรือผู่ชายอ่ะลูก”
“ผู้หญิงนะแม่ เค้ามีหน้าอก เค้าไม่ได้ใส่ซื้อผ้าด้วย” “เอ๋ แปลกแหะ บ้านเราไม่เคยเจออะไรแบบนี้ ขนาดพ่อหนูตายตั้งหลายปี ยังไม่เคยเห็นเลย คงบังเอิญเฉยๆล่ะมั้ง”
“ครั้งนี้บังเอิญก็ได้ ครั้งหน้าถ้ามีอีก ีแม่ต้องเชื่อฝนนะว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ” แม่พยักหน้าหงึกหงักพร้อมทำสีหน้าหนักใจ
“ฝนไปก่อนนะแม่ ไม่อยากสาย”ฉันเหลือบไปมองนาฬิกาบอกเวลา 06:42
 “อ้าว ไปแต่เช้าเลยเหรอ แล้วจะไปยังไง แม่ยังไม่ได้เรียกวินเลย”
“เดี๋ยวฝนขับมอไซค์ไปเองดีกว่าค่ะ พี่วินซิ่งเกิ๊น ฝนกลัว”
 “อ้าวเหรอ งั้นขับดีๆนะลูกรถมันเยอะ”
 “ค่ะ เจอกันตอนเย็นค่ะ”
         พูดจบฉันก็เดินไปหยิบเสื้อคลุม หมวกกันน็อค รองเท้ามาจัดการสวมให้เรียบร้อย ก่อนจะควบมอไซค์คันเก่งไปที่ทำงาน วันนี้ออกเช้ากว่าเมื่อวาน รถบนถนนยังไม่เยอะมาก ใช้เวลาแปบเดียวก็มาถึงโรงงาน ฉันจอดรถไว้ที่โรงจอดรถของมอเตอร์ไซค์ วันนี้เดินใกล้กว่าเมื่อวานอีกนะเนี่ย
 “ขอดูบัตรด้วยครับ”ยามคนเดิมยังทำหน้าที่ไม่ขาดตกบกพร่อง ฉันรีบยื่นบัตรพนักงานให้ยามคนนั้นดู วันนี้ฉันไม่พลาดแล้ว ผ่านด่านมาได้ฉันก็ต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ่าที่ล็อคเกอร์ วันนี้ล็อคเกอร์เงียบจัง
 “ตึก ตึก” เงียบจนได้หยิบเสียงเท้าของตัวเอง “แกร๊บๆ ปึ้ง”เสียงเหมือนคนขยำถุงพลาสติก แล้วปิดประตูอย่างแรง เอ๊ะมีคนอยู่ด้วยเหรอเนี่ย ฉันนึกสงสัยในใจ ไม่คิดว่าจะมีคนมาแต่เช้าเหมือนกัน ฉันเดินผ่านล็อคเกอร์แถวแล้วแถวเล่า ก็ไม่เห็นจะมีใครสักคน จนถึงแถวสุดท้ายซึ่งเป็นแถวของล็อคเกอร์ฉันเอง เอาว่ะหายใจเข้าลึกๆถ้าแถวนีไม่มีคนอื่นนอกจากเราแสดงว่าเสียงเมื่อกี้มัน…
 “อ้าว ป้าบัวเองเหรอค่ะ” เฮ้อโล่งอกที่ไหนได้ป้าบัวนี่เอง
“อ้าวหนูฝนมาแต่เช้าเลยนะ”ป้าบัวทักฉันตอบ ฉันจึงเดินตรงไปที่ล็อคเกอร์ของฉัน
“สวัสดีค่ะ ป้าบัวล็อตเกอร์เราติดกันเลยนะคะ” ฉันมัวแต่โล่งใจที่ต้นเหตุของเสียงคือป้าบัว ทำให้ลืมสวัสดีแกเสียสนิท
“นี่ล็อคเกอร์น้ำฝนเหรอ”อยู่ป้าบัวก็ทำหน้าเคร่งเครียด
“ใช่ค่ะล็อคเกอร์ฝนเอง มีอะไรรึเปล่าคะทำไมทำหน้าแบบนั้น” ฉันถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นป้าบัวทำสีหน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัด
“เปล่าจ้ะ ป้าแค่สงสัยว่าเจ้าของเก่าเค้ายังไม่ทันได้ลาออกเลย ทำไมหนูถึงได้ใช้ล็อคเกอร์เค้า”ฉันพยักหน้ารับแบบงงๆ
“เค้ายังไม่ลาออกเหรอคะ แต่หนูก็ไม่เคยเห็นเค้าเลยนะคะ ตั้งแต่หนูมา”
“จ้ะ ยังไม่ลาออกแต่จู่ๆก็หายไปเฉยๆทาง HR เค้าคงให้ออกแล้วแหละ หนูไม่ต้องคิดมากหรอก ป้าไปก่อนนะ ป้าจะไปเข้าห้องน้ำ” ป้าบัวเดินจากไปเหลือฉันอยู่คนเดียวในล็อคเกอร์ ฉันไขกุญแจเปิดล็อคเกอร์ออกมา กลิ่นยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเหม็นสาบ นี่มันไม่ปกติแล้วใครเอาอะไรมาไว้ล็อคเกอร์รึเปล่า ฉันค่อยๆใช้จมูกดมที่ล็อคเกอร์ทีละตู้ เริ่มจากตู้ฝั่งขวาก่อนละกัน “กึก กึก” เสียงเหมือนมีตัวอะไรสักอย่างดิ้นอยู่ในล็อคเกอร์ มันดังอยู่ใกล้มากๆ ฉันรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เร็วที่สุด “กึก กึก”ในขณะที่เสียงนั้นก็ยังดังต่อเนื่อง
“เอ้ามานานยังฝน”พี่พลอยยังเอิญมาทันฉันพอดี
“พี่พลอย มานี่เร็ว”ฉันพูดพร้อมกวักมือ ซึ่งพี่พลอยก็รีบเดินมาอย่างรวดเร็ว 
“ฟังนะ” ฉันบอกพรางมองหน้าพี่พลอย พร้อมเอานิ้วชี้มาแตะที่ปาก “กึก กึก กึก กึก” ความนี้ดังแรงและนานกว่าครั้งแรก
“เสียงอะไร” พี่พลอยถาม
 “ไม่รู้ค่ะ พี่พลอยว่าจากตู้ไหน”พี่พลอยไม่ตอบแต่เอาหูแนบไปที่ตัวของป้าบัว ก่อนรีบผงะออก ทำจมูกฟุดฟิต
“โหย เหม็นอ่ะเก็บอะไรไว้เนี่ย”พี่พลอยพูดขึ้น “เหม็นแบบนี้ไหม พี่ลองดมล็อคฝน”พี่พลอยค่อยๆยื่นจมูกมาดมที่ล็อคของฉัน
 “อืมๆคล้ายๆกัน แต่ของฝนกลิ่นเบากว่าอ่ะ”
 “จริงเหรอคะ”ฉันเปลี่ยนไปดมที่ล็อคของป้าบัว
 “ฮืมเหม็นจริง”ฉันเห็นด้วยกับพี่พลอยเลยล็อคป้าบัวเหม็นมาก เหม็นจนแทบอ้วก ล็อคเราเหม็นเหมือนฟอร์มาลีน แต่ล็อคป้านี่เหม็นเน่าเลย ฉันกับพี่พลอยมองหน้ากันแบบต่างคนต่างสงสัย “กึก กึก”เสียงนั้นยังดังต่อ
 “รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ จะได้รีบไป” พี่พลอยชวนฉัน ซึ่งฉันเห็นด้วยเรารีบแต่งตัวแล้วออกจากล็อคเกอร์มาด้วยความสงสัยที่ค้างอยู่ในใจมากมาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น