“น้ำฝนทำไมมาสายจังล่ะ” พี่พลอยเอ่ยถามขึ้นทันทีที่ฉันไปถึงห้องประชุม คนอื่นๆมาพร้อมกันหมดแล้ว ฉันเป็นคนสุดท้ายที่มาถึงก็ไม่แปลกที่พี่พลอยจะถามแบบนั้น
“มานานล่ะค่ะแต่ลืมบัตร ยามเลยไม่ให้เข้าโรงงานต้องรอพี่ นก HR มาเซ็นต์ชื่อให้ ถึงได้เข้ามาเนี่ยแหละค่ะ”
ฉันอธิบาย
“แย่เลยดิ แล้วสแกนนิ้วยัง”
สแกนนิ้ว เวรแล้วฉันลืมสแกนแล้ว โอ้ยทำไมขี้ลืมขนาดนี้
“เฮ้ย อย่าบอกนะว่าลืมไปเร็วเดี๋ยวไม่ทัน” พี่พลอยคงเห็นว่าฉันทำหน้าไม่สู้ดีนัก เลยพอจะเดาสถานการณ์ได้ถูก รีบผลักหลังฉันให้เดินออกประตูไป
“มาพร้อมกันทุกคนแล้วใช่มั้ย” พี่นก ที่เพิ่งเดินสวนเข้ามาพอดีถามขึ้น
“ครบแล้วค่ะ” คนอื่นๆในห้องตอบผสานเสียง
“อ้าวแล้วนี่จะไปไหนกัน” พี่นกถามฉัน
“เอ่อ ฝนยังไม่ได้สแกนนิ้วค่ะ เพิ่งนึกได้เลยจะไปสแกน"
“ไม่เป็นไรๆเดี๋ยววันนี้เขียนใบบันทึกเวลาการทำงานไปก่อน อีกแค่สองนาทีก็แปดโมงแล้ว ต่อให้วิ่งไปก็คงไม่ทันหรอก กลับไปนั่งที่ไป”
พี่ฝนพูดด้วยสีหน้าไม่ดีนักพร้อมกับก้มดูนาฬิกาข้อมือไปด้วย
“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” ฉันตอบพร้อมกลับหลังหันเดินไปนั่งที่เก้าอี้ที่ว่างอยู่
“กริ่งๆๆๆๆ” ยังไม่ทันจะตูดถึงโต๊ะกริ่งเข้างานก็ดังขึ้น นี่ถ้าวิ่งไปสแกนนิ้วคงเหนื่อยเปล่า
“เดี๋ยววันนี้พวกเราจะต้องแยกย้ายกันเข้าแผนกแล้วนะ พี่แจ้งพี่เลี้ยงที่จะคอยเทรนด์งานในช่วงก่อนผ่านโปร ให้มารับน้องๆแต่ละคนเข้าแผนก ส่วนฝนเรามาหาพี่หน่อย” พี่นกกวักมือเรียกให้ฉันไปหาที่หน้าห้อง
“พี่เพิ่งได้รับเอกสารส่งตัวจากมหาวิทลัย เดี๋ยวกรอกเอกสารเพิ่มให้พี่ด้วย”
พี่นกพูดพร้อมยื่นเอกสาร 2-3 แผ่นมาให้ มันคือเอกสารเกี่ยวกับการรักษาความลับของบริษัท ขั้นตอนการขอทำโปรเจคในกระบวนการในกรณีที่เราต้องการ ฟอร์มการเขียนรายงานประจำวัน และสุดท้ายเอกสารยินยอมทำงานล่วงเวลาในกรณีที่จำเป็น ซึ่งก็เป็นเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่ตอนสัมภาษณ์แล้ว ฉันจึงยอมเซ็นต์แต่โดยดี เสร็จแล้วก็ยังเหลือเวลาอีกนิดหน่อย
“เป็นไงบ้างตื่นเต้นกันมั้ย เหลือเวลาประมาณ 20 นาทีพี่ให้นั่งคุยกันไปก่อนแต่คุยเงียบๆนะ” หลังสิ้นเสียงพี่นกคนอื่นๆในห้องก็ส่งเสียงคุยกันจอแจ ส่วนฉันเอาหนังสือข้อตกลงที่เซ็นต์ไปเมื่อครู่มานั่งอ่านใหม่
“ยังติดต่อแกไม่ได้อีกเหรอคะ แกไม่มาทำงานอาทิตย์กว่าแล้วนะคะ…….. บริษัทให้ terminate ไปแล้วละค่ะ ยื้อไม่ไหวจริงๆ” เสียงพี่นกคุยโทรศัพท์อยู่ด้านหลังของฉัน
“ พี่ไปทำอะไรให้เค้างอนอีกรึเปล่า 555…..ค่ะๆ โอเคค่ะถ้าตามที่พี่เล่าแกก็คงงอนกลับบ้านไปแล้ว….ค่ะๆไว้คุยกันค่ะ” ถึงไม่ได้ตั้งใจฟังแต่ฉันก็ได้ยินชัดทุกถ้อยคำ ก็แหงล่ะ เล่นยืนค้ำหัวคุยสะขนาดนี้ ฉันเลยค่อยๆเบี่ยงตัวออกจากเก้าอี้นั้นไปนั่งข้างพี่พลอยแทน
“ตื่นเต้นอ่ะไม่รู้คนเทรนด์งานเราจะเป็นยังไงเนอะ แต่ฝนอยู่แป๊บเดียวเองอ่ะ เรียนจบแล้วมาทำงานด้วยกันนะ” พี่พลอยเปิดประโยคสนทนาขึ้น
“โห รีบชวนจังเลยพี่พลอย นี่เพิ่งวันแรกเองนะ พี่อ่ะอย่าหนีหนูไปก่อนล่ะ555” ฉันเลยแกล้งแซวพี่พลอยกลับ
“มารับเด็กครับ” พี่ผู้ชายในชุดพนักงานใส่หมวกสีครีมเดินเข้ามาพร้อมพูดขึ้น จากที่อบรมมาหมวกสีครีมเป็นคนของแผนกผลิต
“อ้าวน้องมิ้น น้องบีมไปกับพี่เค้าจ่ะ” สองคนที่ถูกเรียกชื่อเดินตามพี่คนนั้นออกจากห้องประชุมไป จากนั้นคนอื่นๆก็ทยอยออกไปคนแล้วคนเล่า จนเหลือเพียงฉันกับพี่พลอยที่อยู่แผนกเดียวกัน
“เค้าไม่มารับแล้วมั้ง”พี่นกแกล้งพูด ก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคน
“แผนก QE ใช่มั้ยคะ ส่งคนมารับน้องด้วยค่ะ” พูดจบพี่นกก็วางสายอย่างรวดเร็ว
“เดี๋ยวเค้าก็มาใจเย็นนะ แผนกเราอ่ะช้าที่สุดตลอด”พี่นกบอกให้พวกเราสบายใจ ซึ่งก็เป็นไปตามที่พี่นกบอกเรารออีกแค่ครู่เดียวก็มีคนมารับเสียที
“มาแล้วพี่ โหสุดท้ายอีกแล้วเหรอเนี่ย” ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อคนแรกในแผนกที่เราต้องทำความรู้จัก คือคนที่เราชนเค้าเข้าเต็มแรงเมื่อเช้า ไม่รู้เรียกบังเอิญหรือะไรดี
“อ้าวเห้ย น้องฝึก QE หรอ” เค้าชี้หน้าเราพร้อมกับยิงคำถาม
“ค่ะ”เราตอบสั้นๆ
“ใช่ก็แผนกแกไง รีบพาน้องเข้าแผนกไปได้แล้วสายมากแล้วเนี่ย”
พี่นกดุให้พี่คนนั้น
“เอ้าตามมาๆ” เรากับพี่พลอยจึงเดินตามไป เราไม่ลืมที่จะยกมือไหว้พี่นกอีกครั้งเพื่อเป็นการขอบคุณและล่ำลากันในวันนี้ ระหว่างทางพี่พลอยก็ชวนพี่ชายคนนั้นคุยไปเรื่อยๆ ได้ความว่าพี่ชายมาดกวนคนนี้อายุ 26 เป็น Engineer ของแผนก อ๋อเค้าชื่อ “เอ็ม” งานหลักๆของเค้าก็คือ
“ไม่ผ่านค่ะ” อุ้ย ตกใจหมดเลยกำลังฟังเพลินๆ ใครมาสแกนนิ้วตอนนี้เนี่ย สงสัยจะเป็นกะดึกแน่ๆเลย
“ไม่ผ่านค่ะ” เสียงเครื่องสแกนนิ้วดังขึ้นอีกครั้ง ฉันจึงหันกลับไปมองดูสักหน่อย นิ้วลอกหรือยังไงเนี่ย ไม่ผ่านอยู่ได้ อ้าวเฮ้ยไม่เห็นมีใครเลยนี่หว่า เครื่องลวนเหรอเนี่ย
“ไม่ผ่านค่ะ”
“ไม่ผ่านค่ะ”
“ไม่ผ่านค่ะ”ๆๆๆ
รัวเลยทีนี้ คงไม่ใช่ผีหลอกกลางวัน หลอกนะฉันคิดในใจ
“เอ้าไม่ไปเหรอ มองอะไรอยู่ได้”
“เห้ย ฮืมตกใจหมด” ฉันตกใจสะดุ้งสุดตัวอีกครั้ง เพราะจู่ๆพี่เอ็มก็เล่นมาพูดดังๆข้างๆหู
“เครื่องสแกนนิ้วมันรวนเหรอคะ อยู่ดีๆก็ดัง”ไม่ผ่านค่ะๆๆ” ทั้งๆที่ไม่มีคนสแกน”
“ฮืมกวนป่ะเนี่ย ไม่เห็นได้ยินอะไรเลย ไปไปได้แล้ว”
“ไม่ได้ยินจริงๆเหรอคะ”ฉันถามย้ำอีกรอบเพื่อความมั่นใจ ่
“อืม” พี่เอ็มตอบสั้นๆพร้อมพยักหน้าลงช้าๆเป็นการยืนยันคำตอบ นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย ฉันหันหลังกลับไปมองที่เครื่องสแกนอีกครั้ง ก็ยังพบแต่ความว่างเปล่าเหมือนเดิม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น