บทความส่วนใหญ่ เป็นนิยาย เรื่องสั้น เรื่องเล่า มีทั้งอ้างอิงจากเค้าโครงเรื่องจริง และเรื่องแต่งขึ้นเอง

Tadeestory/ผู้รอดชีวิต 3 (มีต่อ)


คืนนั้นแก้วอาสานอนมุ้งเดียวกับหนึ่ง เพราะกลัวว่าหลานสาวจะกลัว ทั้งคู่หลับไปด้วยความเหนื่อยล้า แม้ว่านักพนันที่ตั้งวงไฮโลจะยังส่งเสียงดังแต่หนึ่งไม่ได้รู้สึกรำคาญเลยแม้แต่น้อย
กลางดึกหนึ่งสะดุ้งตื่นมาเพราะเสียงรถมอไซค ์ เสียงท่อและเครื่องมันดังน่าหนวกหู เหมือนกับว่ามันใกล้จะพังเต็มที  เสียงรถดับลงรถบริเวณ หน้าศาลาหลังที่ตั้งศพ และเป็นหลังเดียวกันกับที่หนึ่งนอนอยู่
“ตึก ตึก ตึก”เสียงเท้ากระทบกับขั้นบรรได หนึ่งมองไปรอบๆ ฟ้ายังมืดสนิท นักพนันกลับบ้านกันหมดแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงหนึ่งกับน้าแก้วที่นอนเป็นเพื่อนศพ หนึ่งควานหาโทรศัพท์ของแก้วเพื่อกดดูเวลา 04:32 “ตีสี่ครึ่ง” หนึ่งพึมพำ
“ตึก ตึก” เสียงเท้านั้นยังเดินขึ้นบันไดต่อ และหยุดไปชั่วครู่ หนึ่งคิดว่าเจ้าของฝีเท่านั้นน่าจะเป็นคนส่งน้ำแข็ง จึงหลับตานอนต่อ
“ตึก ตึก”เสียงฝีเท้าดังขึ้นต่อ พร้อมกับพื้นไม้ของศาลา ที่ยุบยวบยาบ ทำให้มั่นใจได้ว่าเจ้าของเท้า  อยู่บนศาลาแล้ว
หนึ่งรู้ดีแล้วว่านั่นไม่ใช่คนแน่ เพราะยังไม่ทันได้ยินเสียงเปิดประตูศาลา จะเข้ามาเดินด้านในได้อย่างไร  เสียงเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
หนึ่งขยับตัวเข้าไปเบียดแก้วด้วยความกลัวสุดขีด ใจสั่นระรัว เหงื่อซึมตามมือ เท้าและไรผม หนึ่งขยับตัวไปจนแขนด้านขวา สัมผัสกับแผ่นหลังของแก้ว ทว่าแผ่นหลังของน้าสาวกลับร้อนราวกับเตารีด หนึ่งสะดุ้งโย่ง ผละตัวออกจากน้า และเผลอลืมตาขึ้นมา พบว่าคนที่นอนอยู่ข้างกาย ผิวหนังดำเป็นตอตะโก เลือดและหนองไหลออกตามแผลไฟไหม้เต็มไปทั้งตัว ถึงจะตกใจกลัวเพียงใด แต่หนึ่งไม่สามารถกระดุกกระดิก กรีดร้อง หรือแม้แต่หลับตาได้ราวกับถูกแช่แข็งให้หยุดอยู่นิ่งๆ ที่ปลายเท้าของหนึ่ง หญิงสาวในชุดนักเรียนแบบเดียวกับที่หน้าห้องน้ำ ยืนจ้องหน้าเธอตาเขม็ง ดวงตาเบิกโพลงแต่ไร้นัยตาดำ ยกมือสั่นๆขึ้นชี้หน้า เธอ “มึงจะหนีกูไปไหน” ร่างนั้นเอ่ยถามด้วยเสียงดุดัน พอสิ้นเสียง กลิ่นสาบศพคละคลุ้งและร่างอันน่าสยดสยอง พุ่งตรงเข้าไปราวกับจะสิงร่างของหนึ่ง หนึ่งกลัวสุดขีด จากหัวใจที่เต้นระรัวกลายเป็นเกือบจะหยุดเต้น ลมหายใจเข้าออกถูกระงับด้วยจิตใต้สำนึก

“เฮือก” หนึ่งหายใจออกอย่างแรง พร้อมกับลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจ แสงอ่อนๆจากดวงอาทิตย์ยามเช้า ลอดช่องลมเข้ามากระทบกับมุ้ง เป็นประกายระยิบระยับ หนึ่งลุกขึ้นนั่ง ทบทวนเรื่องราวต่างๆ ใจยังเต้นรัวๆ เหงื่อยังเปียกท่วมร่างกาย ทั้งหมดเป็นเพียงความฝันหรือมันเกิดขึ้นจริง
“หนึ่ง ตื่นแล้วรีบไปอาบน้ำอาบท่าวันนี้ วันเผา ต้องเตรียมงานแต่เช้า เดี๋ยวจะไม่ทันเวลา” แก้วที่เพิ่งกลับจากการไปอาบน้ำ บอกกล่าวหลานสาว
“จ๊ะ” หนึ่งค่อยๆผ่อนลมหายใจให้เป็นปกติ ตอบเพียงสั้นๆ

งานวันเผาคนเยอะกว่าปกติ มีทั้งแขกที่มาร่วมงานแต่เช้าและแขกที่มาช่วงเผา เณรหนุ่มทำหน้าที่จูงศพ เป็นสิ่งสุดท้ายที่พอจะทำได้ หนึ่งถือรูปแม่พิมพ์ ผู้วายชนม์เดินนำหน้าขบวน พิธีเผาเป็นไปอย่างรวดเร็ว ประธานในพิธีเพียงเป็นผู้ใหญ่บ้าน เพราะไม่รู้จักคนใหญ่คนโตที่ไหน แม้แต่พุ ตะไล ก็ไม่มี

ควันสีขาวลอยออกจากปล่องควัน ปลายยอดของเมรุ เป็นสัญญาณบอกว่าผู้ร่วมพิธีได้เสร็จสิ้นภารกิจแล้ว ต่างคนก็ต่างเดินทางกลับ เณรหนุ่มเดินตรงมาหาหนึ่งและแก้วที่กำลังช่วยกันเก็บข้าวของอยู่ “น้าแก้วจะกลับเลยหรือป่าวครับ”
“จ้ะ คงต้องกลับวันนี้เลย ไม่รู้จะไปพักที่ไหน จะนอนวัดอีกก็เกรงคนจะครหาเอา”
“งั้น รีบเดินทางกันเถอะครับ ถ้าช้ากว่านี้จะค่ำก่อนถึงกรุงเทพฯ”
เณรหนุ่มแนะผู้เป็นน้า ด้วยความเป็นห่วง
แก้วหันมามองหนึ่งที่ยืนนิ่งอยู่ด้านหลัง “หนึ่งยังมีอะไรที่จำเป็นหลงเหลือที่บ้านมั้ยน้าจะพาแวะไปเอา”
“ที่บ้านไม่เหลืออะไรแล้วล่ะน้าแก้ว เดี๋ยวจัดการเรื่องงานเสร็จ เณรก็จะไปจัดการเรื่องที่ทางที่บ้านต่อ”เณรตอบแทน
“แล้วเณรตั้งใจไว้ยังไง จะขายหรอ”
“ถ้าเมื่อไหร่ที่มั่นใจว่าหนึ่งจะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว เณรจะยกให้วัด”
“ก็ดีเหมือนกันนะ”แก้วแสดงความเห็นด้วยกับเณร
“หนึ่ง หลวงพ่อให้ของดีไว้ติดตัว” เณรหนุ่ม วางผ้าขาวลงบนโต๊ะข้างๆตัวแล้ว วางพระพุทธรูปสำหรับห้อยคอและตะกุดปลุกเสกลงบนผ้า ผลักไปทางน้องสาว
“พกติดตัวไว้ หลวงพ่อท่านว่า จะแคล้วคาดปลอดภัย ทูตผีปีศาจไม่กล้าเข้าใกล้”
หนึ่งพยักหน้าและรับมาอย่างเข้าใจในความหมาย
“ตื๊ดๆๆๆ” เสียงโทรศัพท์แก้วสั่นขึ้น
“ฮัลโหล”แก้วรับโทรศัพท์แล้วเดินห่างออกไป

“จำไว้ ถ้าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอย่า กลับมาที่นี่อีก อีเวรพวกนั้นมันรอจะเอามึงไปอยู่ด้วย”
ได้จังหวะเณรจึงถือโอกาสสั่งน้องก่อนต้องจากกัน ครั้งนี้จากเป็นก็เหมือนจากตาย
แก้ววางโทรศัพท์แล้วเดินกลับมาที่จุดสนทนาเดิม
“พกติดตัวไว้ตลอดล่ะ หลวงพ่อท่านบอกเอ็งมันดวงไม่ค่อยดี”
เณรเปลี่ยนเรื่องสนทนา
“จ๊ะ หนึ่งจะจำไว้” หนึ่งรับปากด้วยเสียงจริงจัง
“อันนี้ของน้าแก้วนะครับ” เณรวางเหรียญหลวงพ่อเกจิอาจารย์ในจังหวัด ใส่ผ้าขาวให้แก้ว”
“สาธุจ่ะ”แก้วรีบรับวัตถุมงคลไว้ เพิ่มกับยกมือท่วมหัว
“ถ้าเปลี่ยนใจจะสึกเมื่อไหร่ โทรบอกน้านะน้าจะมารับไปอยู่ด้วย อ๋อแต่ถ้าไม่เปลี่ยนใจอายุได้บวชพระก็บอกน้านะน้าจะเป็นเจ้าภาพให้ พอจะได้อกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์ กับเค้าบ้าง”
“ครับ น้า”
“เออ น้าต้องไปแล้วล่ะเณร เมื่อกี้ลูกน้องที่ร้านโทรมา บอกว่าพรุ่งนี้นักศึกษาเค้ามาจองคิว แต่งหน้ารับปริญญา ตั้งแต่ตีสามตีสี่”
“อ๋อ ครับเดินทางปลอดภัยครับ หนึ่งตั้งใจเรียนนะ”
“จ้า” ทั้งแก้วและหนึ่งตอบพร้อมกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น